เลือกความตึงเอ็นเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับสไตล์การเล่นของคุณ?

นอกจากตัวไม้แบดมินตันแล้ว “เอ็น” และ “ความตึงของเอ็น” ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการเล่นของคุณ ความตึงเอ็นที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตีลูกและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ แต่ถ้าเลือกผิดก็อาจทำให้เกมของคุณสะดุดได้ บทความนี้จะมาเจาะลึกว่าความตึงเอ็นแบบไหนที่เหมาะกับใครบ้าง

หน่วยวัดความตึง: ปอนด์ (lbs)

ความตึงของเอ็นจะถูกวัดเป็นหน่วยปอนด์ (lbs) ยิ่งตัวเลขสูง ความตึงของเอ็นก็จะยิ่งมาก

  • ความตึงต่ำ (18 – 22 lbs): เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการตีลูกเซฟไปท้ายคอร์ทได้ง่าย ๆ ด้วยแรงดีดส่งของเอ็นที่สูง ทำให้ไม่ต้องใช้แรงเยอะในการตีลูก
  • ความตึงปานกลาง (23 – 26 lbs): เป็นความตึงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้เล่นทั่วไปที่ต้องการความสมดุลระหว่างพลังและการควบคุม
  • ความตึงสูง (27 lbs ขึ้นไป): เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับกลางถึงมืออาชีพที่เน้นการควบคุมลูกที่แม่นยำและการตบที่หนักหน่วง แต่การใช้ความตึงสูงก็ต้องแลกมากับจุด Sweet Spot ที่เล็กลง และอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ข้อมือและข้อศอกได้ง่ายหากข้อมือไม่แข็งแรงพอ

ความสัมพันธ์ระหว่างความตึงกับสไตล์การเล่น

สำหรับมือใหม่ (18 – 22 lbs)

มือใหม่ส่วนใหญ่ยังขาดกำลังแขนและเทคนิคที่ถูกต้อง การเลือกความตึงต่ำจะช่วยชดเชยส่วนนี้ได้ดี เพราะเอ็นจะทำหน้าที่เป็นสปริง ช่วยดีดส่งลูกไปได้ไกลโดยไม่ต้องออกแรงมาก ทำให้รู้สึกว่าการตีลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและสนุกขึ้น

สำหรับผู้เล่นทั่วไป (23 – 26 lbs)

ถ้าคุณเริ่มมีทักษะและกำลังแขนที่แข็งแรงขึ้น ลองเพิ่มความตึงเอ็นเป็นระดับปานกลางดูครับ ที่ระดับนี้คุณจะเริ่มรู้สึกถึงการควบคุมลูกที่แม่นยำขึ้น สามารถควบคุมทิศทางของลูกได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตบ การหยอด หรือการดร็อป

สำหรับผู้เล่นระดับสูงและมืออาชีพ (27+ lbs)

นักกีฬามืออาชีพมักจะใช้ความตึงสูงเพื่อดึงประสิทธิภาพของไม้และเทคนิคส่วนตัวออกมาให้ได้มากที่สุด ความตึงสูงจะทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุมทิศทางของลูกได้อย่างแม่นยำสูงสุด ทำให้การวางลูกทำได้ตามใจนึก และเสียงที่เกิดขึ้นจากการตีลูกก็จะดังกังวานกว่า แต่ต้องแลกมากับแรงดีดส่งที่น้อยลงและต้องใช้แรงจากข้อมือมากขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือก

  1. ขึ้นเอ็นกับช่างผู้เชี่ยวชาญ: ควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์และใช้เครื่องขึ้นเอ็นที่ได้มาตรฐาน
  2. เลือกประเภทของเอ็น: เอ็นแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องความทนทาน แรงดีด และความรู้สึกเมื่อกระทบลูก
  3. ความสัมพันธ์กับตัวไม้: การเลือกความตึงเอ็นควรสัมพันธ์กับไม้ที่คุณใช้ด้วย เช่น หากคุณใช้ไม้หัวหนัก การขึ้นเอ็นที่ความตึงสูงอาจจะทำให้ไม้หนักและควบคุมยากเกินไป

สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่สงสัยว่า ไม้แบด Yonex รุ่นไหนดี สำหรับการขึ้นเอ็น ลองดูรุ่นที่นักกีฬาอาชีพใช้เป็นตัวอย่างได้ครับ เช่น หากเป็นไม้ที่เน้นพลังอย่าง Astrox นักกีฬาอาจจะเลือกขึ้นเอ็นที่มีความทนทานและให้แรงดีดที่ดีเพื่อเสริมประสิทธิภาพการตบ หรือหากเป็นไม้ที่เน้นการควบคุมอย่าง Arcsaber ก็อาจจะเลือกเอ็นที่ให้ความรู้สึกในการตีที่นุ่มนวลและแม่นยำกว่า