รู้ก่อนซื้อ เลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดห้องและไลฟ์สไตล์

การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศสักเครื่องดูจะเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าเลือกไม่เหมาะสมกับขนาดห้องหรือการใช้งานแล้ว นอกจากจะทำให้เปลืองเงินโดยใช่เหตุ ยังอาจทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไปจนเสียเร็วกว่ากำหนดได้ ดังนั้น มาดูกันว่ามีอะไรที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อบ้าง

1. คำนวณขนาด BTU ให้เหมาะสมกับพื้นที่

หน่วย BTU (British Thermal Unit) คือหน่วยที่ใช้วัดความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ การเลือกขนาด BTU ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก หาก BTU น้อยเกินไป แอร์จะทำงานหนักเพื่อให้ได้ความเย็นที่ต้องการ แต่ถ้า BTU มากเกินไป แอร์จะตัดการทำงานบ่อย ทำให้ห้องเย็นไม่สม่ำเสมอ และอาจทำให้เครื่องชื้นจนเกิดกลิ่นอับได้

วิธีคำนวณง่ายๆ คือใช้สูตร: ขนาดห้อง (ตารางเมตร) x ค่าตัวแปร (สำหรับห้องปกติอยู่ที่ 700 – 800)

  • ห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นปกติ (ไม่มีแดดส่องเยอะ) ใช้ค่า 700
  • ห้องที่โดนแดดบ่าย หรือมีคนอยู่เยอะ ใช้ค่า 800

ตัวอย่าง:

  • ห้องนอนขนาด 12 ตร.ม. x 700 = 8,400 BTU
  • ห้องนั่งเล่นขนาด 20 ตร.ม. x 800 = 16,000 BTU

จากตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าห้องขนาด 12 ตร.ม. ต้องการแอร์ประมาณ 9,000 BTU ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องทำงานขนาดเล็ก ซึ่งหากคุณกำลังมองหา แอร์ 9000 BTU รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับห้องขนาดดังกล่าว ก็ควรพิจารณาจากค่าประหยัดไฟเบอร์ 5, ฟังก์ชันเสริม และบริการหลังการขายประกอบกัน

2. เลือกประเภทเครื่องปรับอากาศให้เข้ากับไลฟ์สไตล์

เครื่องปรับอากาศมีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้ในบ้านพักอาศัยมีหลักๆ ดังนี้:

  • แอร์ติดผนัง (Wall Type): เป็นที่นิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นทั่วไป มีดีไซน์ทันสมัย ติดตั้งง่าย และมีฟังก์ชันหลากหลาย
  • แอร์ตั้งพื้น (Floor Standing Type): เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้าง เช่น ห้องโถง หรือสำนักงานขนาดเล็ก ติดตั้งง่ายแต่กินพื้นที่
  • แอร์แขวนเพดาน (Ceiling Type): เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ เช่น ร้านอาหาร หรือห้องประชุม เพราะกระจายลมเย็นได้ดี

3. พิจารณาเทคโนโลยีและฟังก์ชันเสริม

  • ระบบ Inverter: เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานแบบปรับรอบ ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ตัดการทำงานบ่อย ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าแอร์ธรรมดา เหมาะสำหรับผู้ที่เปิดแอร์เป็นเวลานาน
  • ค่า SEER: คือค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ยิ่งค่า SEER สูง ยิ่งประหยัดไฟได้มาก
  • ฟังก์ชันเสริม: เช่น ระบบฟอกอากาศ (Nanoe, Plasma) ที่ช่วยกำจัดฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรค, ระบบควบคุมผ่าน Wi-Fi หรือโหมดเงียบสำหรับห้องนอน

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ก่อนซื้อ จะช่วยให้คุณได้เครื่องปรับอากาศที่ตอบโจทย์การใช้งาน ประหยัดค่าไฟ และมอบความเย็นสบายได้อย่างยาวนาน